“เคสนี้ลูกค้าอายุ 41 ปี มาด้วยอาการมองไกลไม่ค่อยชัด เนื่องจากแว่นเดิมใช้งานมาประมาณ 5 ปีแล้ว ไลฟ์สไตล์เป็นคนต้องทำงานหน้าคอมตลอด วันละ 8 ชั่วโมง และมือถืออีกประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ค่อยได้มีโอกาสพักสายตา”
.
ตรวจสุขภาพตาด้วยเครื่อง Slit lamp พบว่าลูกค้ามีต้อลมบริเวณเยื่อบุตาขาวทั้งสองข้าง พบร่วมกับเยื่อบุตาบวมแดง ที่เรียกว่า pappillary conjunctivitis ซักประวัติเพิ่มเติมพบว่าลูกค้าเพิ่งมีอาการตาอักเสบ มีขี้ตาเยอะเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว แต่อาการดีขึ้นแล้วเมื่อพบจักษุแพทย์ จึงแนะนำให้ใช้น้ำตาเทียมแบบรายวันหยอดเป็นประจำเพื่อลดการระคายเคือง
.
ค่าแว่นเดิม
R -2.00 VA 20/20-1
L -1.75 VA 20/20-1
ค่าแว่นที่ตรวจละเอียดโดยนักทัศนมาตร
R -1.50-0.25×90 VA 20/20
L -1.00-0.50×90 VA 20/20
BCC +0.50
.
หลังการตรวจพบว่าลูกค้าใส่แว่นที่มีค่าสายตา Over minus มากจนเกินไป จริงอยู่ว่าในช่วงแรกผู้สวมใส่จะรู้สึกตัวเลขชัดและเข้มขึ้นจริง แต่เมื่อใส่เป็นระยะเวลานานกล้ามเนื้อตาถูกกระตุ้นมากจนเกินความจำเป็น ทำให้ให้ระบบโฟกัสภาพและกล้ามเนื้อตาทำงานจนล้า ส่งผลให้ลูกค้ามีอาการมองไกลไม่ชัดเป็นบางครั้งคราว และพอมองใกล้ก็ต้องใช้เวลาปรับโฟกัสสักพักหนึ่ง เคสนี้นักทัศนมาตรแก้ไขด้วยการจ่ายค่าแว่นตามที่ตรวจได้จริง เมื่อลูกค้าลองแล้วรู้สึกสบายตาขึ้นมากทั้งในระยะไกล และระยะใกล้
ในเคสนี้เมื่อลองใส่ Plus lens +0.50D ให้ในที่ใกล้ ลูกค้าแจ้งว่าภาพชัดขึ้นและสบายตามากกว่าเดิม จึงแนะนำเป็นเลนส์ลดอาการเพ่ง หรือที่เรียกว่า Digital lens โครงสร้างเลนส์จะออกแบบมาให้เน้นมองไกล และมองใกล้สบายตาขึ้น ลดอาการปวดหัว ปวดตา หรือตาล้า ด้วย Plus lens แบบอ่อนๆ ตอบโจทย์คนที่ต้องใช้งานอุปกรณ์หน้าจอดิจิทัลนานๆ
.
หลังรับแว่นลูกค้าใช้เวลาปรับตัวไม่นาน รุ่นเลนส์ที่เลือก คือ HOYA 1.50 Sync III PRO Full control Sensity Fast Grey เลนส์ที่ใช้พารามิเตอร์ขณะกรอบแว่นอยู่บนหน้าผู้สวมใส่จริงไปคำนวณให้ได้โครงสร้างเลนส์ที่ใส่แล้วสบายตามากที่สุด พร้อมฟังก์ชันกรองแสงสีฟ้า และออกแดดเปลี่ยนสีเทา
.
ตัดคู่กับกรอบแว่นที่เบาและคุณภาพดีสุดๆ RODENSTOCK model R7129 59C ด้วยวัสดุ Titanium แท้ น้ำหนักเบามาก ขาแว่นเป็นสปริงรองรับทุกการสวมใส่ ไม่บีบขมับ
