Case Review
ZEISS SINGLE VISION 1.50 SMARTLIFE BLUEGUARD DURAVISION ANTIVIRUS PLATINUM UV
ประวัติ : ลูกค้าเพศหญิงอายุ 39 ปี มีประวัติเคยทำเลสิคมาประมาณ 7 ปี รู้สึกว่าเริ่มมีอาการตามัวเมื่อมองระยะไกล รู้สึกมัวมากขึ้นเวลากลางคืนและอยู่ในที่ที่มีแสงน้อย กิจวัตรประจำวันทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน ปกติใส่แว่นกรองแสงสีน้ำเงินเมื่อทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่มีประวัติโรคประจำตัว
VA without correction
R. 20/30
L. 20/25+2
Full Subjective Refraction
R. -0.50 VA 20/20
L. -0.25 VA 20/20
Refraction and Trial Lens
R. -0.50 VA 20/20
L. -0.25 VA 20/20
หลังจากเข้ารับการปรึกษาและตรวจสุขภาพตาเบื้องต้น พบว่าสุขภาพตาโดยรวมของคุณลูกค้าอยู่ในเกณฑ์ปกติ และจากการตรวจประเมินความผิดปกติของสายตา พบว่าเป็น Myopia (ภาวะสายตาสั้น) ในตาทั้งสองข้าง สรุปได้ว่าลูกค้ามีสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยหลังจากผ่าตัดทำเลสิกมาแล้วประมาณ 7 ปี
เมื่อมีการลองใส่เลนส์ทดลอง (Trial lens) เพื่อจำลองความคมชัดและมุมมองของตัวเลนส์ ลูกค้าแจ้งว่ามุมมองภาพเป็นธรรมชาติและสบายตา จึงเลือกจ่ายค่าสายตาเพื่อแก้ไขให้ลูกค้าแบบ Full Correction
เนื่องจากลูกค้ามีประวัติการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นหลัก รู้สึกตามัวมากขึ้นในสภาวะแสงน้อย และลูกค้าต้องการตัวเลนส์ที่มีโค้ทติ้งกรองแสงสีน้ำเงินหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ทางร้านจึงแนะนำเลนส์ ZEISS SINGLE VISION 1.50 SMARTLIFE BLUEGUARD DURAVISION ANTIVIRUS PLATINUM UV เลนส์ชั้นเดียวจากแบรนด์ Zeiss ประเทศเยอรมนี Zeiss SmartLife เป็นเลนส์โครงสร้างเฉพาะบุคคลสำหรับคนยุคดิจิทัล ด้วยการใช้ Luminance Design Technology ซึ่งเป็นการนำข้อมูลอายุไปคำนวนขนาดของรูม่านตา เพื่อกำหนดให้ขนาดของลำแสงสอดคล้องกับขนาดของรูม่านตาของลูกค้า ซึ่งจะตอบโจทย์กับปัญหาของลูกค้าทั้งในเรื่องของการใช้สายตากับหน้าจอนานๆและรู้สึกมีอาการตามัวมากขึ้นในสภาวะที่มีแสงน้อย
พร้อมกับโค้ทติ้ง BLUEGUARD DURAVISION ANTIVIRUS PLATINUM UV ช่วยกรองแสงสีน้ำเงินพลังงานสูงจากจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และจอประเภทต่างๆ เพื่อถนอมสุขภาพดวงตาและยังช่วยเสริมการป้องกันอีกหนึ่งขั้นโดยการยับยั้งแบคทีเรียได้ถึง 99.9% บนผิวเลนส์ ทั้งยังมีคุณสมบัติป้องกันแสง UV ที่เป็นอันตรายได้ครบถ้วนอีกด้วย