“คุณลูกค้าอายุ 46 ปี มาด้วยอาการแว่นเดิมมองไกล และมองใกล้ไม่ค่อยชัดแล้ว โค้ดเลนส์เดิมลอก และแว่นตกบ่อย ๆ ทำให้รู้สึกเสียบุคลิกเพราะต้องดันแว่นขึ้นตลอดเวลา“
ซักประวัติเพิ่มเติม :
– มีโรคความดันสูงอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อายุรกรรม ทานยาสม่ำเสมอ คุมความดันได้ดี
– จอประสาทตาหลุดลอก (Retinal detachment) ที่ตาข้างขวา เป็นและรักษามาแล้วประมาณ 3 ปี รักษาโดยการใช้น้ำมันฉีดอัดเข้าไปเพื่อดันจอประสาทตาไม่ให้ลอกออก ปัจจุบันจอประสาทตาติดดีแล้ว
– ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ IOL ข้างขวามาแล้ว
ตรวจฟังก์ชันการทำงานของตาสองข้าง
1. Amsler Grid สำหรับคัดกรองและประเมินการมองเห็นของโรคจอประสาทตา ผลคือ พบ Metamorphopsia ในตาข้างขวาบริเวณ Inferotemporal chart
2. Worth 4 Dots เช็คความสามารถในรับภาพไปประมวลผลที่สมอง ผลคือ OD suppression ตาข้างขวาไม่สามารถทำงานร่วมกับตาซ้ายได้ ในระยะมองไกล
ตรวจค่าสายตาอย่างละเอียดโดยนักทัศมาตร
R +0.50-1.25×165
L -6.50-0.75×165
ADD +1.00
ลูกค้ามีปัญหาทั้งมองไกลและมองใกล้ แต่เมื่อลองใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟแล้วพบว่าการเหลือบตาข้างขวายังไม่สามารถทำงานได้ดี ทำให้เห็นภาพซ้อนไม่ชัดเมื่อใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ จึงแนะนำเป็นแยกแว่นสองตัว สำหรับมองไกล และมองมือถือ เลนส์ที่นักทัศนมาตรแนะนำ คือ HOYA NULUX CLASSIC 1.67 VG SENSITY 2 UV เลนส์ชั้นเดียวที่ขัดแบบ Aspheric ทำให้เลนส์บางมากขึ้น มุมมองลานสายตากว้างมากขึ้น ภาพบริเวณขอบเลนส์ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ ไม่วูบวาบ พร้อมฟังก์ชันออกแดดเปลี่ยนสี เพิ่มความสบายในที่กลางแจ้ง เนื่องจากลูกค้าต้องคอยออกไซต์งานอยู่บ่อย ๆ ลดความเสี่ยงเป็นต้อลม ต้อกระจก
.
ในลูกค้าที่มีค่าสายตาสองข้างไม่เท่ากัน และมีค่าสายตายาวร่วมด้วย แต่ไม่มีปัญหาการกลอกตา ปัญหากล้ามเนื้อตา หรือโรคตาแทรกซ้อน ก็สามารถใช้เลนส์โปรเกรสซีฟที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ตัวเองได้
![](https://www.oliviaoptic.co.th/wp-content/uploads/2025/02/image.png)
ที่มาของภาพ : https://chineselens.com/th/aspheric-lenses-vs-spherical/
ซ้าย : การขัดเลนส์แบบเดิม